วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลยฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 ม.108 ที่ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำบัตรเลือกตั้งดีให้เป็นบัตรเสีย และ ป.อาญา ม.358 ฐานทำให้เสียทรัพย์
คดีนี้ โจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 เวลากลางวัน จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1 ใบ และแบบบัญชีรายชื่อ 1 ใบ ของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขาดออกเป็นหลายชิ้นจนเสียหายใช้ลงคะแนนไม่ได้ อันเป็นการจงใจกระทำด้วยประการใดๆ ให้บัตรเลือกตั้งดังกล่าวชำรุดเสียหาย เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ขอให้จำเลยตามความผิดและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
จำเลยให้การปฏิเสธและนำสืบว่า การยุบสภาผู้แทนฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ไม่ได้มีสาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เพื่อหลีกเลี่ยง การตรวจสอบในสภาเรื่องการถือครองหุ้นชินคอร์ป ของครอบครัวชินวัตร การยุบสภาจึงมิได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และจะใช้ผลการเลือกตั้งซักฟอกความผิดของตน และกำหนดวันเลือกตั้งไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยฉีกบัตรเลือกตั้งดังกล่าวโดยเจตนาที่จะต่อต้านการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมิได้มีเจตนาทำลายบัตรเลือกตั้ง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 49 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 9/2549 ว่า เป็นการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม ไม่เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 บัตรเลือกตั้งที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมอบให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงไม่ใช่บัตรเลือกตั้งเป็นเพียงแบบพิมพ์บัตรเลือกตั้ง การกระทำของจำเลยจึงไม่อาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ม.108 และการที่จำเลยมาใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วฉีกบัตรเฉพาะในส่วนที่ได้รับมาทั้งสองใบอย่างเปิดเผยเพื่อสื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม โดยไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย หรือความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จึงเป็นการใช้สิทธิต่อต้านการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยสันติวิธี ทั้งบัตรเลือกตั้งดังกล่าวก็เป็นทรัพย์ที่ กกต.ใช้ในการทำความผิดในการเลือกตั้งและมีราคาเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองของประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง
ทึ่มา: http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000152785